22/2/53
ประวัติมิกกี้เม้าท์
ประวัติมิกกี้เมาส์
เรื่องราวของมิคกี้ เม้าส์เริ่มขึ้นในปี 1928 โดย
"วอลเตอร์ อีลิส ดิสนีย์" ( วอลล์ ดิสนีย์)ภายหลังจากที่มีการตั้งบริษัท วอลล์ ดิสนีย์ ร่วมกันกับ'รอย'
นักผลิตการ์ตูนซึ่งเป็นน้องชายของเขา ครั้งแรกที่พวกเขาสร้างตัวการ์ตูนตัวนี้ขึ้นมานั้น พวกเขาเรียกมันว่า
"มอร์ติเมอร์ เมาส์" แต่ในเวลาต่อมาหลังจากที่ภรรยาของเขาแนะนำว่า ควรจะเปลี่ยนชื่อตัวการ์ตูนนี้ใหม่
เขาจึงเปลี่ยนชื่อตัวการ์ตูนเป็น "มิคกี้ เมาส์" (ในอิตาลีจะเรียกว่า "โทโพลิโน่") มิคกี้เป็นหนูซึ่งมีหูกลมใหญ่
สีดำและมีแขนขาที่เล็กมากโดยมิคกี้จะใส่กางเกงขาสั้นสีแดงซึ่งมีกระดุมสีเหลือง 2 เม็ดติดอยู่บนกางเกง
รองเท้าและถุงมือก็จะเป็นสีเหลืองด้วย มิคกี้ เมาส์ได้รับการเปิดตัวครั้งแรกที่โรงภาพยนตร์ในนิวยอร์ค และ
การ์ตูนเรื่องนี้มีจุดเด่นที่เพลงประกอบที่ไพเราะ ภาพและฉากสวยงาม หลังจากนั้นดิสนีย์ก็ได้ผลิตการ์ตูนขึ้น
อีกเรื่องคือเรื่องลูกหมูสามตัว โดยซิลลี่ ซิมโฟนี่ การ์ตูนเรื่องนี้ได้รับรางวัลออสก้าร์ในปี 1933 ถึง 31 รางวัล
มิคกี้ เมาส์เปิดตัวในโลกของการ์ตูนครั้งแรกในปี 1930 เป็นตัวการ์ตูนซึ่งมี
บุคลิกที่มีความอดทน
อดกลั้น
มีความฉลาดหลักแหลม
มองโลกในแง่ดี
และกล้าหาญ ที่สำคัญมิคกี้มีสัญชาตญาณ
พิเศษในเรื่องของการสืบสวนสอบสวน และด้วยบุคลิกที่โดดเด่นในแง่นี้เองทำให้ตัวการ์ตูนตัวนี้ชอบที่จะใช้เหตุผล
เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ โดยไม่ต้องใช้กำลังเข้าสู้ เช่นการชนะศัตรูที่มีร่างกายที่แข็งแรงกว่ามิคกี้มาก
การผจญภัยของมิคกี้ เมาส์มีมากมายหลายตอน ได้แก่ มิคกี้ เม้าส์กับความลี้ลับของจุดดำ, มิคกี้ เมาส์
ราชาแห่งหนู, มิคกี้ เมาส์นักหนังสือพิมพ์, มิคกี้ เมาส์และความลี้ลับของชายในสายหมอก, มิคกี้ เมาส์กับปีศาจกอริลล่า,
มิคกี้ เมาส์ยุคหิน ฯลฯ สำหรับเรื่องการแต่งตัวที่ดูทันสมัยของมิคกี้ เมาส์ในบางครั้งก็จะสวมใส่กางเกงขายาวสีแดง
เสื้อถักรัดรูปสีน้ำเงินซึ่งมีแขนเสื้อสั้น ถุงเท้าและถุงมือเป็นสีเหลืองเข้าชุดกัน ในปี 1940 มิคกี้ เมาส์ ได้รับขนานนามจาก
นักวิจารณ์ ภาพยนตร์ว่าเป็นการ์ตูนที่ได้รับความชื่นชอบมากที่สุดใน ยุคนั้น เพราะเป็นการ์ตูนที่เต็มไปด้วยจินตนาการ
ตัวการ์ตูนอีกตัวหนึ่งซึ่งถือว่าเป็นเพื่อนสนิทของมิคกี้ก็คือ กุฟฟี่ ซึ่งเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด
ซึ่งมักจะติดตามมิคกี้ไปทุกๆที่ ในอเมริกาเรียกกุฟฟี่ว่า กูฟี่ ซึ่งชื่อนี้มีความหมายว่าตัว ตลก และความสนุกสนาน จากชื่อนี้
เองสามารถเดาถึงบุคลิกลักษณะนิสัยของกุฟฟี่ได้ ในความเป็นจริงแล้วกุฟฟี่จะมีบุคลิกที่ตรงกันข้ามกับมิคกี้ ซึ่งกุฟฟี่จะคอย
กวนใจมิคกี้บ่อยครั้ง ตามประวัติแล้วกุฟฟี่จะคอยสร้างความครื้นเครงให้ผู้อื่น โดยการทำฟองสบู่ ในขณะที่มิคกี้รู้สึกท้อแท้ช่วย
ให้มิคกี้คลายความเศร้าได้ กุฟฟี่ถูกสร้างขึ้นปี 1932 ในการ์ตูนเรื่องมิคกี้ เมาส์ กุฟฟี่จะแต่งกายด้วยชุดสีแดงคล้ายกับชุดนอน
และสวมเสื้อคลุมไม่มีแขนสีฟ้า กุฟฟี่จะเปลี่ยนเป็น ซุปเปอร์กูฟ หลังจากที่ได้รับประทานถั่วชนิดพิเศษเข้าไป
ซึ่งถั่วดังกล่าวจะปลูกอยู่ในสวนภายในถ้วยใบหนึ่ง เมื่อทานถั่วเข้าไปแล้วกุฟฟี่จะมีพลังเหมือนกับซุปเปอร์แมน
มีกำลังมหาศาล สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว
มินนี่ เม้าส์ ซึ่งเป็นคู่หมั้นของมิคกี้ ถือได้ว่าเป็นตัวแทนของความเป็นผู้หญิง ตัวการ์ตูนนี้เกิด
ขึ้นมาจากความเป็นผู้หญิง ซึ่งมีอยู่ในทุกสังคมและความคิดของมินนี่ ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงไปตามทัศนคติ มินนี่มีบุคลิกที่อ่อน
หวานอ่อนไหว ชอบการต่อสู้และมีอารมณ์ที่ค่อนข้างหุนหันพลันแล่น มินนี่จะเป็นตัวแทนของเพศหญิง ฟอยด์ ก๊อตเฟรตสัน
เป็นนักวาดการ์ตูนที่สร้างมินนี่ เม้าส์ขึ้นมา มินนี่เป็นตัวการ์ตูนตัวหนึ่งในการ์ตูนเรื่องมิคกี้ เมาส์ โดยส่วนใหญ่แล้วมินนี่จะ
ปรากฏตัวในห้องครัว ขณะที่ทำเค้กกับคาร์ราเบลล่า ซึ่งเป็นเพื่อนของมินนี่ การเป็นคู่หมั้นของมิคกี้และมินนี่เป็นตัวแทน
ของความผูกพัน ซึ่งเชื่อมทั้งสองเข้าไว้ด้วยกันชั่วนิรันดร์
ถึงแม้ว่ามินนี่ และมิคกี้จะไม่มีลูกด้วยกันแต่ในประวัติของมิคกี้
นั้นมักจะมีหนูเด็กๆ 2 ตัวปรากฏอยู่เสมอๆ หนูทั้งสองตัวนั้นชื่อว่า ทิป และแท๊ปซึ่งเป็นหลานของมิคกี้ ทิปและแท๊ปปรากฎตัวเป็น
ครั้งแรกในปี 1932 ในตอนที่ชื่อว่า"หลานของมิคกี้" ซึ่งผู้ที่สร้างสรรตัวละครนี้ขึ้นมาคือ ฟอยด์ ก๊อตเฟรตสัน ในปี 1934 ในตอน
"รถบดถนนของมิคกี้" ทิปและแท๊ปจะมีลักษณะทางกายภาพคล้ายคลึงกับมิคกี้ เม้าส์ซึ่งเป็นลุง โดยที่ทิปและแท๊ปจะใส่เสื้อคลุมขน
สัตว์ที่เป็นชุดยาวมีสายรัดและสวมหมวกของกะลาสี ทิปและแท๊ปเป็นหนูที่ฉลาด ทิปและแท๊ปจะต่อต้านหลานของมินนี่ ซึ่งมีชื่อ
ว่าเมโลดี้
การผจญภัยของทิปและแท๊ป เกิดขึ้นเมื่อพวกเขาพบกับพลูโตซึ่งเป็นสุนัขของมิคกี้ พลูโต เป็นสุนัขที่
ซื่อสัตย์ อ่อนไหว มีความอยากรู้อยากเห็นสูง พลูโตปรากฏตัวเป็นครั้งแรกในการ์ตูนเรื่องมิคกี้ เม้าส์ในปี 1930 ในความ
เป็นจริงแล้วสุนัขก็ย่อมที่จะมีพฤติกรรมเหมือนสุนัข ในขณะที่กุฟฟี่และมิคกี้รวมถึงตัวการ์ตูนตัวอื่นๆ ถึงแม้ว่าจะเป็น
สัตว์แต่ก็สามารถพูดได้อย่างมนุษย์ปกติทั่วๆไป
url http://mookyossaya.myfri3nd.com/blog/2008/12/13/entry-1
18/2/53
การ์ตูน"มิกกี้เม้าท์"

วอลเตอร์ อีเลียส ดิสนีย์ (Walter Elias Disney) (5 ธันวาคม 2444 - 15 ธันวาคม 2509, ค.ศ. 1901-1966) เป็นผู้สร้างผลงานการ์ตูนที่แพร่หลาย และประสบความสำเร็จมากที่สุดของโลกคนหนึ่ง เขาเป็นผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท วอลต์ ดิสนีย์ และเป็นคนสร้างภาพยนตร์การ์ตูนสีเป็นคนแรก เขาเริ่มทำการ์ตูน มิกกี้เม้าส์ (Mickey Mouse)และ โดนัลด์ดั๊ก (Donald Duck) และเริ่มทำหนังยาว เช่น สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด (Snow White and the Seven Dwarfs), แฟนตาเซีย (Fantasia), พินอคคิโอ (Pinocchio) และ แบมบี้ (Bambi)
ตลอดเวลา 43 ปีในอาชีพของดิสนี่ย์ เขาเป็นผู้พัฒนาเทคนิคการถ่ายภาพยนตร์ให้ทันสมัยมากขึ้น เป็นผู้ริเริ่มการสร้างสรร ผลงานที่มีจินตนาการสูง ทำให้ได้ผลงานที่คนทั้งโลกประทับใจไม่รู้ลืม โดยดิสนี่ยได้รับรางวัลออสการ์ไปถึง48รางวัล และ รางวัลเอมมี่ อีก7รางวัล วอล์ท ดิสนี่ย ( วอลเตอร์ เอเลียส ดิสนี่ย์ )ผู้ให้กำเนิด มิคกี้ เมาส์ และเป็นผู้ก่อตั้งสวนสนุกดังระดับโลกอย่าง ดิสนี่ย์ เวิร์ลด์ เกิดเมื่อ 5 ธันวาคม 1901 ที่ชิคาโก้ รัฐอิลลินอยส์ เติบโตในครอบครัวชาวนาในมิสซูรี่ ดิสนี่ย์เริ่มสนใจในการวาดรูปเมื่ออายุ 7 ปี และสนใจในการเรียนวาดรูปและถ่ายรูปเมื่ออยู่ที่แม็คคินเลย์ ไฮสคูล
ในปี1918 ดิสนี่ย์ก็ได้ เข้าร่วมกับหน่วยกาชาติ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่1 พอหลังจากสงครามโลกครั้งที่1สงบ ดิสนี่ย์ก็กลับไปยังแคนซัส ซิตี้ ที่ๆเขาเริ่มทำงานด้านการเขียนการ์ตูนประกอบโฆษณาที่นี่ ในปี1920 ดิสนี่ย์ได้ออกแบบ ตัวการ์ตูนที่เป็นแบบฉบับของตัวเองและ เรียนรู้วิธีที่จะทำให้ตัวการ์ตูนนั้นเคลื่อนไหวได้ ในเดือนสิงหาคมปี 1923 ดิสนี่ย์ก็ไปที่ฮอลลิวู้ดเพื่อก่อตั้งสตูดิโอที่นั่น และในปี1928 ดิสนี่ย์ได้สร้าง มิคกี้ เมาส์ และ ปรากฎครั้งแรกในหนังการ์ตูนเงียบที่ชื่อว่าPlane Crazy แต่ว่า ก่อนที่การ์ตูนเรื่องนี้จะออกฉายนั้น ก็เริ่มมีการนำเสียงมาใส่ในภาพยนตร์ ทำให้มิคกี้ เมาส์ก็ได้ปรากฎอยู่ในหนังการ์ตูนที่มีการใส่เสียงเรื่องแรกในโลกที่มีชื่อว่า Steamboat Willie ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 1928ดิสนี่ย์ก็ได้พัฒนาเทคนิคการทำภาพยนตร์ต่อไปโดยไม่มีที่สิ้นสุด เทคนิคการใส่สีในภาพยนตร์อนิเมชั่นก็ถูกนำมาใช้ในหนังอย่าง Silly Symphonies ปี 1932 หนังเรื่องFlowers and Treeของ Walt ก็ได้รับรางวัลออสการ์ครั้งที่32 ในปี1937 ดิสนี่ย์ได้สร้างหนังเรื่อง The Old Mill ซึ่งเป็นหนังสั้นที่นำเอาเทคนิคของmultiplane camera มาใช้ ในวันที่ 21 ธันวาคม ปี1937 ดิสนี่ย์ก็ได้ถือกำเนิด สโนว์ไวท์และคนแคระทั้ง7 ซึ่งเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นเพลงเรื่องแรกของเขา และทำรายได้สูงในสมัยนั้น และเป็นจุดเริ่มต้นของภาพยนตร์การ์ตูนชุดยาวของดิสนี่ย์ และก็มีเรื่องอื่นๆตามมาอย่าง พิน็อคคิโอ้ แฟนตาเซีย ดัมโบ้ และ แบมบี้
ในปี1940 เบอร์แบงค์สตูดิโอของดิสนี่ย์ก็สร้างเสร็จสมบูรณ์ โดยมีเจ้าหน้าที่มากกว่า 1000 คน ซึ่งประกอบด้วย ช่างศิลป์ อนิเมเตอร์ คนเขียนบท และ ฝ่ายเทคนิค ดิสนี่ย์ก็ใช้เวลาในสตูดิโอนี้เพื่อการสร้างหนังการ์ตูน ซึ่งรวมแล้ว ทั้งหมดก็มีด้วยกันถึง81เรื่องด้วยกัน และผลงานของดิสนี่ย์ก็เป็นสื่อที่ให้การเรียนรู้ได้มากพอๆกับความบันเทิง จนทำให้ได้รับรางวัลจากเรื่องTrue-Life Adventure ซึ่งมีหนังย่อยๆอย่างThe Living Desert,The Vanishing Prairie,The African Lion,และWhite Wilderness โดยหนังเหล่านี้ได้พูดถึงการใช้ชีวิตของสัตว์ป่าทั่วโลก ในปี1955 ดิสนี่ย์ก็ได้ใช้เงินถึง17ล้านดอลล่าร์ ในการสร้างอาณาจักรบันเทิงอันยิ่งใหญ่อย่าง ดิสนี่ย์แลนด์ และปัจจุบันก็มีคนจากทั่วโลกมากกว่า 250ล้านคน เข้ามาเยี่ยมชม ส่วนงานด้านโทรทัศน์ ดิสนี่ย์ก็เริ่มต้นเมื่อปี 1954 และออกอากาศรายการทีวีที่เป็นภาพสีครั้งแรก กับรายการWonderful World of Colorในปี 1961. ส่วนรายการThe Mickey Mouse Clubและ Zorroก็ได้รับความนิยมมากจากผู้คนในยุค50
- ในปี1965ดิสนี่ย์ได้มองถึงปัญหาของการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนอเมริกัน ทำให้ดิสนี่ย์ได้วางแผนที่จะสร้าง EPCOT(Experimental Prototype Community of Tomorrow) เพื่อแสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรร ของอุตสาหกรรมอเมริกันที่จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้(ถ้าใครนึกออก มันก็คือลูกกอล์ฟขนาดยักษ์ที่ตั้งอยู่ในดิสนี่ย์เวิร์ลด์) ดังนั้น ดิสนี่ย์จึงซื้อที่ดิน 43 ตารางไมล์ ที่เป็นศูนย์กลางของรัฐฟลอริด้า เพื่อที่จะสร้างดิสนี่ย์ เวิร์ลด์ ซึ่งเป็นทั้งสวนสนุก โรงแรม รีสอร์ท และรวมถึง EPCOT center โดย ดิสนี่ย์ เวิร์ลด์ เปิดวันที่1 ตุลาคม ปี1971 และ EPCOT center เปิด1 ตุลาคม ปี 1982 วอล์ท ดิสนี่ย์ เสียชีวิต วันที่ 15 ธันวาคม 1966 โดยผลงานที่เขาได้สร้างสรรในด้านต่างๆไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ อนิเมชั่น โทรทัศน์ รวมถึงงานบันเทิงด้านอื่นๆนั้น ก็ยังคงเป็นที่จดจำของผู้คนทั่วโลก หรืออาจกล่าวได้ว่า เขานั้นเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพล ในด้านบันเทิงอีกคนหนึ่งในศตวรรษที่20 เลยทีเดียว
ขอบคุณข้อมูลจากhttp://th.answers.yahoo.com
ภาพประกอบจาก TeeNee.comและ อินเตอร์เน็ต
17/2/53
Mickey Mouse

มิกกี้ เมาส์ (อังกฤษ: Mickey Mouse)เจ้าหนูที่ครองใจเด็กๆทั่วโลก มีลักษณะเป็นหนูสีดำ สวมกางเกงเอี๊ยมสีแดง ถือกำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2471 โดยวอลต์ ดิสนีย์และอับ ไอเวิร์กส ให้เสียงโดยวอลต์ ดิสนีย์
จุดกำเนิดของมิกกี้ เมาส์ เกิดขึ้นขณะที่วอล์ต ดิสนีย์ นั่งอยู่บนรถไฟระหว่างทางมุ่งสู่ลอสแอนเจลิส เขาลงมือสเก็ตช์ภาพคาแรกเตอร์หนูเล็ก ๆ สวมกางเกงสีแดง ขึ้นมา โดยมีอับ ไอเวิร์กสออกแบบรูปร่างลักษณะ การ์ตูนเสียงเรื่องแรก "Steamboat Willie" เข้าฉายที่ New York's Colony Theatre โดยทางนิวยอร์กไทม์เขียนไว้ว่า "เป็นผลงานที่มีความคิดสร้างสรรค์เยี่ยมยอดและสนุก"
บุคลิกของมิกกี้ เมาส์คือ
- มองโลกในแง่ดี
- มีความกระตือรือร้น
- ถ่อมตัวและเรียบง่าย
- ซื่อสัตย์
- ชอบร้องอุทาน "Gosh" หรือบางครั้งก็ "Oh boy!", "Aw-Gee" ,"Uh-Oh!"
- ชอบอ่าน Newsweek, time, Life, National Geographic, Good Housekeeping
- มีหวานใจชื่อว่ามินนี่เมาส์ซึ่งเป็นตัวการ์ตูนที่ครองใจเด็กๆทั่วโลกเช่นกัน
- นอกจากนี้มิกกี้เมาส์ยังมีสุนัขสีน้ำตาลแสนรัก ชื่อว่า พลูโตที่เป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์ ฉลาดและแสนรู้
มิคกี้ เมาส์ ถือกำเนิดขึ้นในปี 1928 บนขบวนรถไฟจากนิวยอร์กสู่ลอสแองเจลิส ขณะนั้น วอลท์มีอายุเพียง 27 ปี เขาเดินทางร่วมกับภรรยา "ลิเลียน" (Lillian) กลับจากการเจรจากับเพื่อนที่ฉ้อโกงจนเขาต้องสูญเสียลิขสิทธิ์การ์ตูนกระต่ายที่ชื่อ "ออสวอลด์ เดอะ ลัคกี้ แร็บบิท" ซึ่งเขาวาดขึ้นมาเองกับมือบนรถไฟ วอลท์ จินตนาการถึงเจ้าหนูกางเกงแดงตัวเล็ก ๆ และลงมือวาดภาพ เขาตั้งชื่อมันว่า "มอร์ติเมอร์" แต่ลิเลียนคิดว่าชื่อนี้ดูจะเป็นทางการเกินไป จึงตั้งชื่อใหม่ให้มันว่า "มิคกี้ เมาส์" และดาวดวงน้อย ๆ แห่งโลกการ์ตูนก็กำเนิดขึ้น โดยไม่มีใครรู้เลยว่า หนูตัวนั้นจะกลายมาเป็นขวัญใจของเด็ก ๆ และผู้คนทั่วโลกในเวลาต่อมา
การ์ตูนเรื่องแรกของมิคกี้คือ "เพลน เครซี่" (Plane Crazy) ตามมาด้วย "กัลลอปปิน โกโช" (Gallopin Gaucho) ซึ่งเป็นการ์ตูนเงียบ ก่อนที่วอลท์จะก้าวเข้าสู่การสร้างภาพยนตร์การ์ตูนเสียงเรื่องแรกของเขา "สตีมโบท วิลลี่" (Steamboat Willie) ที่เข้าฉายรอบปฐมทัศน์ ณ โรงภาพยนตร์ โคโลนี เธียเตอร์ นิวยอร์ก เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน คศ.1928 ซึ่งถือเป็นวันเกิดของ มิคกี้ เมาส์ อย่างเป็นทางการ นับจากวันนั้น ชื่อสเยงของวอลท์ก็โด่งดังไปทั่วประเทศพร้อม ๆ กับชื่อเสียงของเจ้าหนูมิคกี้ที่โลดแล่นอยู่ในหนังการ์ตูนของเขาอีกกว่า 120 เรื่อง ในช่วงทศวรรษ 1930 และเหล่าผองเพื่อนของมิคกี้ก็ถือกำเนิดตามมา ได้แก่ มินนี่ เมาส์, กูฟฟี่, พลูโต, โดนัลด์ ดั๊ก และอื่น ๆ อีกมากมาย
จุดสูงสุดของยุคทองของมิคกี้เกิดขึ้นจากภาพยนตร์เรื่อง "แฟนตาเซีย" ในปี 1940 แอนนิเมชั่นเสียงสเตอริโอเรื่องแรกของโลกภาพยนตร์ที่สมบูรณ์แบบด้วยสีสันของดนตรีเรื่องราว และ
ภาพการเคลื่อนไหว หลายทศวรรษผ่านมา มิคกี้ เมาส์ ยังยืนอยู่ในหัวใจและเป็นที่รักของเด็ก ๆ และผู้คนทั่วโลก เพราะเขาสอนให้คนหันหลังให้กับความทุกข์ และหัวเราะยิ้มรับกับเรื่องราวดี ๆ ที่เขาและผองเพื่อนมอนให้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคงเป็นเพราะ เขามีความฝันทียิ่งใหญ่และเข้าถึงหัวใจของเด็กทั่วโลกได้โดยง่าย
หนึ่งในคำกล่าวยกย่องที่ดีที่สุดสำหรับดาราการ์ตูนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง มิคกี้ เมาส์ คือคำกล่าวที่ วอลท์ ดิสนีย์ พูดไว้เมื่อวันที่เขาให้สัมภาษณ์ทางทีวีเป็นครั้งแรกว่า "I hope we never lose sight of one thing...that this was all started by a mouse." อาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ของดิสนีย์ยืนยงมาจนถึงทุกวันนี้ได้ ก็เพราะเราเริ่มต้นมันด้วยหนูตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่ง...